Ready Play One หนังแห่งการระลึกถึงความเป็น POP Culture ในยุค 80

ในเรื่องของการหลงใหลในวัฒนธรรมที่นิยมในสมัยยุค 80 นั้น ไม่เพียงแต่คนที่เกิดและเติบโตในช่วงเวลานั้นนะ แต่ยังมีคนยุคหลัง ๆ ที่ย้อนกลับไปให้ควานสนใจกับวัฒนธรรมยุค 80 ด้วยโดยเฉพาะพวกสื่อบันเทิงที่โด่งดังและเป็นที่นิยมในยุคสมัยนั้น และที่เราจะหยิบยกมาพูดถึงคือหนังเรื่อง Ready Play One หนังที่เล่าเหตุการณ์ในช่วง ค.ศ.2045 พระเอกของเรื่องซึ่งกำลังเป็นวัยรุ่น ก็คือหนึ่งในคนที่หลงใหลในวัฒนธรรมยุค 80 เอาซะมาก ๆ เลยทีเดียว หลงใหลขนาดไหน ต้องลองไปฟังกัน

Ready Play One เป็นหนังปี 2018 กำกับโดยรุ่นเก๋าอย่าง Steven Spielberg พูดถึงโลกอนาคตช่วงปี ค.ศ. 2045 หลังจากที่โลกเสื่อมโทรมลง และผู้คนใช้ชีวิตในโลกความเป็นจริงอย่างยากลำบาก เลยพยายามที่จะหลีกหนีจากความจริงไปอยู่ในโลกของเกมที่ชื่อว่าโอเอซิส (OASIS: Ontologically Anthropocentric Sensory Immersive Simulation) เกมที่ว่านี้ถูกพัฒนาขึ้นโดย James Halliday ซึ่งเป็นคนที่หลงใหลและใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตอยู่กับเทคโนโลยี การเล่นเกม และการพัฒนาเกม (ซึ่งเราอาจจะเรียกคนแบบนี้ว่ากี๊ก หรือ Greek นั่นเอง)

James Halliday กลายเป็นไอดอลของเหล่าวัยรุ่น เขาได้รับการยกย่อง ชื่นชมอย่างมาก (จนเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นศาสดาเลยก็ว่าได้) และเรื่องก็พีคขึ้นไปอีก เมื่อเขาปล่อยคลิปออกมาว่าเขาได้ตายไปแล้ว และต้องการจะมอบหุ้นบริษัทและสิทธิในการควบคุมดูแล OASIS ให้กับคนที่สามารถตามหาไข่วิเศษ (Golden Easter egg) ซึ่งเขาซ่อนมันไว้ใน OASIS นั่นเอง และนั่นจึงเป็นที่มาให้ Wade Watts (รับบทโดย Tye Sheridan) พระเอกของเรา ร่วมกับทีมของเขาอีก 4 คน ในชื่อ High Five เข้าไปเล่นเกมเพื่อจะได้ครอบครอง Easter egg ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องราววัยรุ่นรวมตัวกันเล่นเกมธรรมดา แต่ต้องบอกเลยว่าโทนของหนังมันไม่ใช่หนังวัยรุ่นจ๋าอะไรแบบนั้น หนังถูกจัดอยู่ในหมวดหนัง Action, Adventure, Sci-Fi และยิ่งพ่อมดวงการ Hollywood อย่าง Spielberg กำกับด้วยแล้ว จึงมั่นใจเรื่องความสนุก ยิ่งใหญ่ และต้องมีพล็อตที่แยบคายแน่นอน

ทีนี้กลับไปที่ประเด็นการระลึกถึงความเป็น POP Culture ในยุค 80 ที่เกริ่นไว้ตั้งแต่ตอนแรก อยากจะบอกว่า Ready Play One เป็นหนังที่รวบรวมกระแสนิยมในช่วง 80 มาไว้เยอะมากจริง ๆ เราจะเห็นจากคำพูดของตัวละครทั้งตอนอยู่นอกเกมและในเกม โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมและบรรยากาศในเกม แต่ละฉาก แต่ละด่านของเกมจะถูกทำขึ้นโดยมี reference เป็นคำพูด สัญลักษณ์ หรือฉากจากหนังต่าง ๆ เช่น Jurassic Park, King Kong, Back to the Future, Star War, Star Trex, Batman, Chucky, Alien และอื่น ๆ อีกมากมาย และถูกนำมาพูดถึงอย่างโดดเด่นคือคาแรคเตอร์ของ บัคคารู บันไซ จากหนังเรื่อง The Adventures of Buckaroo Banzai Across the 8th Dimension โดยพระเอกของเราแต่งตัวเป็นบัคคารู บันไซ ตอนจะไปเดตกับนางเอก และฉากหนังที่เป็นไฮไลท์ของเรื่องอีกฉากหนึ่งก็คือฉากในโรงแรม Overlook ของหนังเรื่อง The Shining เหมือนเป็นการฉายซ้ำ The Shining อีกรอบ เพียงแต่เปลี่ยนคนแสดง แต่ฉากและบรรยากาศนั้นเหมือนต้นฉบับมากจริง ๆ นอกจากฉากหนังยังมีการสอดแทรกดนตรี เพลง เกมต่าง ๆ ที่ฮอตฮิตในสมัยนั้น รับรองได้เลยคนยุค 80 ดูแล้วต้องคิดถึงอดีตของตัวเองแน่นอน

หนังไม่เพียงแต่ต้องการให้คนดูซึมซับกับวันวานและย้อนระลึกถึงความหลังเท่านั้น แต่ Ready Play One สิ่งหนึ่งที่สรุปได้จากหนังคือ ไม่ว่าโลกจะล่มสลายไปกี่ครั้ง ก็ยังจะมีคนกลุ่มหนึ่งที่ยืนอยู่บนยอดพีระมิดเสมอ และหนังยังให้ความสำคัญกับความกล้า ความซื่อสัตย์ต่อความรู้สึก การยอมรับในความเท่าเทียมกันของมนุษย์และการยอมรับความจริง มีประโยคหนึ่งในหนังที่ James Halliday บอกว่า “ฉันสร้างโอเอซิส เพราะโลกความเป็นจริง ไม่ใช่ที่ของฉัน” เขาเพียงต้องการหลีกหนีจากโลกความจริงที่น่ากลัวและสร้างความเจ็บปวด เข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในเกม แต่สุดท้ายแล้วเขาก็รู้ว่าถึงมันจะน่ากลัวและเจ็บปวด แต่มันก็คือความจริง ดังนี้เราเองก็ต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับความจริงและเรียนรู้ที่อยู่กับความจริงโดยไม่ปล่อยให้มันทำลายตัวตนของเรา

เครดิตภาพ : https://www.imdb.com/title/tt1677720/mediaviewer/rm943110145