10 ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมตลอดกาล ที่ต้องดูซักครั้งในชีวิต

IMDb จัดทำลิสต์หนังยอดเยี่อมตลอดกาล 250 อันดับ (Top 250 Rated Movies) ซึ่งให้คะแนนโดยผู้ใช้งาน IMDb (The Internet Movie Database หรือ IMDb เป็นฐานข้อมูลออนไลน์รวบรวมข้อมูลภาพยนตร์ นักแสดง ผู้กำกับ และบุคคลที่เกี่ยวข้องในวงการภาพยนตร์ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 83 ล้านคน) สำหรับใครที่อยากดูหนัง แต่ยังเลือกไม่ได้ซักทีว่าจะดูเรื่องอะไร นี่ไง มีคอหนังเขาเลือกไว้ให้แล้ว ซึ่งการันตีคุณภาพและความสนุกไว้ด้วยคะแนนยังไงล่ะ (คะแนนเต็ม 10) วันนี้เราสรุปมาเล่าให้ฟังแบบย่อ ๆ 10 อันดับแรก

1. The Shawshank Redemption (1994) คะแนน 9.2 พระเอกเป็นเหยื่อของระบบยุติธรรม ต้องมาติดคุกทั้งที่ไม่ได้ทำผิด หนังเล่าเรื่องราวในคุก การรักษาความดีของตัวเองไม่ให้ถูกสิ่งแวดล้อมกลืนกิน การสร้างมิตรภาพ ความอดทน ความหวัง และอิสระภาพ ซึ่งคนดูเอาใจช่วยในทุกสเตปเลยก็ว่าได้ และประโยคทอง “Fear can hold you prisoner. Hope can set you free”            

2. The Godfather (1972) คะแนน 9.1 หนังเจ้าพ่อที่โคตรจะทรงพลัง มีความคลาสิก (ตรงตามนิยาย) มีความสุขุมนุ่มลึก ตีแผ่จิตใจทั้งด้านสว่างและด้านมืดของมนุษย์ ถือเป็นหนังแก๊งสเตอร์ต้นแบบให้คนทำหนังยุคต่อ ๆ ต้องคนที่ชอบอะไรที่มันสุขุมนุ่มลึก       

3. The Godfather: Part II (1974) คะแนน 9.0 เป็นภาคต่อของ The Godfather (1972) ทำให้เห็นการได้มาซึ่งอำนาจและการรักษาอำนาจในรูปแบบที่แตกต่างกันของพ่อ (ดอนวีโต้) กับรุ่นลูก (ไมค์)

4. The Dark Knight (2008) คะแนน 9.0 หนังแบทแมนของผู้กำกับคริสโตเฟอร์โนแลนด์ เป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่ทำให้คนดูต้องคิดตาม (คิดเยอะด้วย) มันดราม่ามากกว่าหนังซุปเปอร์ฮีโร่เรื่องอื่น ดาร์คกว่า และบทก็ดีมาก มีการตั้งคำถามเชิงจริยธรรม มนุษยธรรม และบทโจ๊กเกอร์ก็ตราตรึงน่าจดจำซะขนาดนั้น

5. 12 Angry Men (1957) คะแนน 8.9 คณะลูกขุน 12 คนต้องมาลงมติคดีลูกฆ่าพ่อ ว่าลูกมีความผิดจริงหรือไม่ โดยลูกขุนทั้ง 12 คน ต้องพิจารณาหลักฐาน ถกเถียงกันเพื่อหาข้อสรุป หนังมีแค่ฉากลูกขุน 12 คนอยู่ในห้องที่ร้อนอบอ้าว คุยกันไปมา แต่คนดูสามารถดูได้จนจบ เพราะสิ่งที่พวกเขาคุยและถกเถียงกันนั้นมันทำให้เราคิดตาม เหมือนเราเป็นลูกขุนอีกคนหนึ่งเลย

6. Schindler’s List (1993) คะแนน 8.9 หนังที่เล่าเรื่องราวช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยนักธุรกิจชื่อ Schindler ต้องการเขามาแสดงหาประโยชน์จากสงคราม แต่สุดท้ายกลายเป็นพ่อพระช่วยเหลือชาวยิวให้รอดพ้นจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โดยการทำลิสต์รายชื่อชาวยิวกว่าหนึ่งพันคนส่งให้ทหารนาซีเพื่อขอคนยิวเหล่านั้นมาทำงานที่โรงงานของเขา

7. The Lord of the Rings: The Return of the King (2003) คะแนน 8.9 คงไม่ต้องอธิบายมาก สำหรับเรื่องอภินิหารแหวนครองพิภพ หนังแฟนตาซีผจญภัยที่สนุก ตื่นเต้น และทรงพลัง             

8. Pulp Fiction (1994) คะแนน 8.8 หนังของผู้กำกับเควนติน ทาแรนติโน ตัวละครชอบเล่นมุก ตลกหน้าตาย ตัดฉากสลับไปมา บทพูดเยอะมาก และกวนมาก ไม่เสียดายตัวละครด้วย (คิดจะให้ตาย ก็ตายทันที ไม่ให้คนดูได้ตั้งตัว)

9. The Good, the Bad and the Ugly (1966) คะแนน 8.8 หนังคาวบอยอิตาลี นำแสดงโดย Clint Eastwood การเดินเรื่องสนุกสนานน่าติดตาม มีฉากคลาสสิคหลายฉาก ดนตรีประกอบคลาสสิคตลอดกาล กลายเป็นหนังคาวบอยในตำนาน 

10. The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001) คะแนน 8.8 เป็นภาคแรกของ The Lord of the Rings เป็นการเปิดตัวความแฟนตาซีในดินแดนมิดเดิลเอิร์ธ มีจอมมารผู้ชั่วร้าย หลอมแหวนวิเศษที่มีพลังมหาศาลขึ้นมาเพื่อที่จะครองโลก (เป็นที่มาของอภินิหารแหวนครองพิภพ) กลายเป็นสงครามยิ่งใหญ่ ที่ทำให้ ‘โฟรโด และ กอลลัม’ เป็นที่น่าจดจำและเป็นสัญลักษณ์ของ The Lord of the Rings จนถึงทุกวันนี้

เครดิตภาพ : https://www.imdb.com/title/tt0111161/mediaviewer/rm2250080256