เมื่อ ‘แฮร์รี่ พอตเตอร์’ กลายเป็นภัยต่อความมั่นคงทางศาสนา!

เชื่อได้ว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักวรรณกรรมเยาวชนอมตะที่มียอดขายถล่มทลายและถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ภาคต่อมากถึง 8 ภาคอย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ปัจจุบันแม้ทั้งหนังสือและภาพยนตร์ต่างก็ปิดฉากลงไปอย่างสมบูรณ์แล้ว แต่ชื่อของพ่อมดน้อยแฮร์รี่ พอตเตอร์ ก็ยังมีบทบาทอยู่ในหลายกลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นสวนสนุก สินค้าลิขสิทธิ์ต่าง ๆ รวมทั้งเรื่องความเชื่อในเวทย์มนต์คาถาที่ถูกร่ายจากไม้กายสิทธิ์ที่แสนวิเศษ ความหลงใหลในศาสตร์เวทย์มนต์ดังกล่าวได้ขยายกลายเป็นภัยต่อความมั่นคงในศาสนาจนทำให้ปัจจุบันได้เริ่มมีบางสถานที่เกิดการแบนวรรณกรรมอมตะชิ้นนี้กันอย่างจริงจัง

คาถาในแฮร์รี่อาจมีอยู่จริง?

แฮร์รี่ พอตเตอร์เป็นผลงานจากจินตนาการและปลายปากกาของ J.K. Rowling ถูกตีพิมพ์ออกจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1997 จากนั้นก็ได้รับการกระแสตอบรับล้นหลามจนถูกวางขายกว่า 200 ประเทศและแปลไปมากกว่า 80 ภาษา ขึ้นแท่นเป็นหนังสือวรรณกรรมชุดที่ขายดีที่สุดตลอดกาล เมื่อย้อนกลับมาดูประวัติการศึกษาของ J.K.Rowling พบว่าเธอได้สำเร็จการศึกษาโดยตรงในสาขาวรรณกรรมคลาสสิคจึงทำให้เธอมีความรอบรู้ในการใช้ภาษาเป็นอย่างดี นั่นทำให้เธอมีความละเอียดอ่อนในการใช้ภาษากรีกโรมันซึ่งเป็นภาษาโบราณที่ตายแล้วในการประดิษฐ์ชื่อตัวละคร สิ่งของในโลกเวทย์มนต์ รวมไปถึงคาถาต่าง ๆ ที่ปรากฎในเรื่อง จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เรื่องราวของแฮร์รี่ พอตเตอร์จึงมีความขลังและน่าเชื่อถือจนเป็นที่ถูกใจของนักอ่านหลายคน แต่ใครจะเชื่อว่าด้วยเหตุที่แฮร์รี่ พอตเตอร์ได้รับความนิยมอย่างมากจนบางครั้งก็มีเด็กบางคนลุกขึ้นมาร่ายคาถาต่าง ๆ เล่นด้วยความอินในเนื้อเรื่อง จะกลายเป็นประเด็นให้ผู้ใหญ่บางกลุ่มเกิดความเป็นห่วงและเกิดการต่อต้านเรื่องราวของแฮร์รี่ พอเตอร์ในที่สุด!

ในวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2562 ได้เกิดเหตุการณ์เผาหนังสือต่าง ๆ รวมทั้งแฮร์รี่ พอตเตอร์ทิ้งที่โบสถ์สองแห่งในเมือง Gdansk ประเทศโปแลนด์ ด้วยความเชื่อที่ว่ากลุ่มหนังสือดังกล่าวเป็นสาเหตุให้เกิดการปลุกปีศาจขึ้นมาได้ ซึ่งต่อมาบาทหลวงผู้มีส่วนร่วมก็ได้ออกมากล่าวขอโทษต่อการกระทำดังกล่าว และในช่วงเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน ห้องสมุดในโรงเรียนคาทอลิกแห่งหนึ่งในรัฐ Tennessee สหรัฐอเมริกา ก็ได้มีมติถอดแฮร์รี่ออกจากชั้นหนังสือด้วยข้อหาที่ว่าวรรณกรรมชุดดังกล่าวมีคาถาที่อาจปลุกวิญญาณร้ายขึ้นมาได้จริง และได้มีการกำชับผู้ปกครองของนักเรียนในโรงเรียนดังกล่าวให้สั่งห้ามไม่ให้นักเรียนข้องเกี่ยวกับแฮร์รี่ พอตเตอร์ด้วย 

อนาคตจะมีการเคลื่อนไหวใดอีกต้องรอติดตามกันต่อ

อาจเพราะคาถาที่ดูเหมือนจริงหรือมีความหมายที่สามารถถอดความออกมาได้จริงด้วยความตั้งใจของผู้แต่ง จึงเกิดเป็นประเด็นให้ผู้มีความเชื่อทางศาสนาหลายคนเกิดความวิตกกังวลว่าคาถาเหล่านี้อาจจะมีพลังอำนาจขึ้นมาจริง ๆ ได้หรือไม่  เรื่องนี้นับเป็นความเชื่อส่วนบุคคลซึ่งยากที่จะให้ความเห็นไปในทางใดทางหนึ่งชัดเจนได้

แม้จะเป็นการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นในกลุ่มคนที่มีความเชื่ออย่างแรงกล้าในความชั่วร้ายของเหล่าพ่อมดแม่มด แต่ก็เป็นที่น่าสนใจว่าในอนาคตจะมีการเคลื่อนไหวใด ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นนี้ต่อหรือไม่ เชื่อว่าคงเป็นอีกหนึ่งข่าวที่ทำให้สาวกของพ่อมดน้อยแฮร์รี่ พอตเตอร์ที่กระจายตัวอยู่ทั่วโลกให้ความสนใจไม่น้อยอย่างแน่นอน