รวบรายชื่อหนังเด่นของผู้กำกับขวัญใจวัยรุ่นยุค 90 : หว่องกาไว

เราคงได้เห็นผลงานของ หว่องกาไว (Wong Kar-wai) ผ่านตามาบ้างแล้ว ซึ่งนอกจากความอินดี้แล้ว หนังของผู้กำกับอายุ 62 ปีคนนี้ ยังมีความละเมียดละไม ส่งผ่านความเหงาได้อย่างมีชั้นเชิงและเป็นเอกลักษณ์ โดยบทความนี้เราได้รวบรวมรายชื่อหนังดัง ดังเด่น ฝีมือการกำกับของ หว่องกาไว มาบิ้วให้ทุกท่านอยากไปหามาดูกัน

1. Days of Being Wild  (1990) หนังสร้างชื่อเรื่องแรกๆ ที่ขนนักแสดงหน้าใหม่ไฟแรงสมัยนั้นมาร่วมแสดง ทั้งเลสลี่ จาง, เหลียงเฉาเหว่ย, หลิวเตอหัว, จางม่านอวี้ มีจุดเด่นตรงเป็นการเล่าชีวิตของหนุ่มสาวฮ่องกง ที่แสวงหาความรัก มีความเหงา และหาจุดพอดีของชีวิต มีชั้นเชิงการเล่าเรื่องให้ตัวละครมีชีวิตคนละทางแต่หาจุดเชื่อมโยงกันได้แบบเท่ห์มาก

2. Chungking Express  (1994) หนังเรื่องนี้น่ารักมาก นำแสดงโดย ทาเคชิ คาเนชิโระ, เหลียงเฉาเหว่ย, เฟย์ หว่อง และหลินชิงเสีย เป็นหนังที่เล่าความรักของผู้ชายสองคน คือทาเคชิที่ชอบผู้หญิงผมทองคนนั้น และเหลียงเฉาเหว่ย ที่มี เฟย์ หว่องมาแอบชอบ เรื่องนี้โดดเด่นตรงภาพสวย มีสไตล์แบบ หว่องกาไว ใส่ดนตรีประกอบได้อินดี้แต่ออกมาดีมาก หนังจบแฮปปี้แต่ดูจบแล้วมีความรู้แบบ…บอกไม่ถูก แต่รับรองได้อย่างหนึ่งคือพอดูเรื่องนี้แล้วจะต้องถามหาหนังแนวนี้หรือหนังของผู้กำกับคนนี้อีกแน่นอน

3. Fallen Angels (1995) นำแสดงโดย หลี่หมิง, ทาเคชิ คาเนชิโระ, หลี่เจียซิน, คาเรน ม็อก เป็นหนังแนวดาร์ก อาร์ตอีกเรื่อง ที่ต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง จุดสังเกตอย่างหนึ่งของหนังคือตัวละครมักจะไม่ได้นั่งคุยเพื่อบอกเล่าความคิดความรู้สึกให้กันฟัง แต่มักจะจินตนาการไปเอง คิดคนเดียว พูดคนเดียว มันเลยดูเหงาขึ้นมา ที่แน่ๆ เราจะได้เห็นความหล่อบาดตาทะลุทะลวงใจของ หลี่หมิง

4. Happy Together (1997) เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว หนังที่มีเนื้อหาผู้ชายรักชอบผู้ชายเรื่องนี้ถูกสร้างขึ้น และใช้นักแสดงมีชื่อเสียงอย่างเลสลี่จาง และเหลียงเฉาเหว่ยมาเล่นบทเลิฟซีนกันอีกด้วย นี่ไงล่ะความกล้าของ หว่องกาไว ถึงจะเป็นหนังชายรักชายแต่ยังคงสไตล์ เฮีย หว่อง มุมกล่องเท่ห์ๆ การเล่าเรื่องด้วยภาพที่ถ่ายทอดอารมณ์เปลี่ยวเหงา และความสับสนของตัวละคร โดดเด่นและน่าจดจำ

5. In the Mood for Love (2000) หนังชู้รักที่ไม่เคยได้เป็นชู้รัก นำแสดงโดยคู่บุญอย่างเหลียงเฉาเหว่ย และ จางม่านอวี้ หนังเรื่องนี้โดดเด่นตรงงานภาพละเมียดละไม เต็มไปด้วยอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดของตัวละคร (โดยที่ตัวละครไม่ต้องเอ่ยคำพูด) ที่สำคัญคือตัวละครหลัก ทั้งเหลียงเฉาเหว่ย และ จางม่านอวี้ เรื่องนี้ดูมีเสน่ห์และน่าค้นหามาก (มีฉากกระซิบฝากความลับที่นครวัต จะบอกว่ามีคนเลียนแบบมาใช้จริงด้วย)

6. 2046 (2004) เป็นหนังภาคต่อของ In the Mood for Love โดยคู่บุญ เหลียงเฉาเหว่ย และ จางม่านอวี้ เหมือนเคย และมีกงลี่ เหลียวเจียหลิง และ เฟย์หว่อง เป็นนักแสดงเพิ่มเข้ามา เรื่องนี้ หว่องกาไวเขียนบทให้พี่เหลียงสร้างโลกสมมุติหรือโลกในนิยายขึ้นมา โดยเขานั่งเขียนนิยายอยู่บนห้อง 2047 ข้างห้อง 2046 ซึ่งเขาเคยมีความทรงจำกับจางม่านอวี้ เนื้อเรื่องค่อนข้างล้ำยุคกว่าเรื่องอื่นๆ และก็มีเนื้อหาเยอะ แต่ละฉากกระโดดไปมา ซึ่งคนดูต้องประติดประต่อเอง

7. My Blueberry Nights (2007) เป็นหนังที่ หว่องกาไวได้ร่วมงานกับนักแสดงฮอลลีวูดอย่างจู๊ด ลอว์, นอร่า โจนส์, นาตาลี พอตแมน, ราเชล ไวซ์ หนังเล่าชีวิตของผู้หญิง 3 คน ที่รอคอยและค้นหาความรักกันคนละแบบ ชอบตรงภาพวูบวาบของหนัง (สไตล์ หว่องกาไวอีกแล้ว) ความเหงาที่ส่งผ่านออกมาจากกระจกของร้านอาหาร มันกระทบใจไม่ลืมเลย

สรุปสไตล์หนังของ หว่องกาไวคือ การเล่าเรื่องที่มีชั้นเชิง มักมีการใช้สัญลักษณ์เปรียบเทียบ เช่น การเล่นกับเวลา ตัวเลข สถานที่ ตัวละครมักมีคำพูดหรือคิดในใจแบบเชยๆ แต่หนังกลับออกมาเท่ห์ และโดดเด่นที่งานภาพ โดยช่างภาพที่ทำงานกับ หว่องกาไวประจำจะมี คริสโตเฟอร์ ดอยล์, Mark Lee Ping-bing, Kwong-hung Chan และนักแสดงเจ้าประจำก็คือ เหลียงเฉาเหว่ย และจางม่านอวี้นั่นเอง