ตับอ่อนเธอนั้น ฉันขอเถอะนะ KIMI NO SUIZO WO TABETAI เรื่องราวความรักในหัวใจที่ไม่มีใครรับรู้

หนังรักความหมายดี ๆ ที่เข้าไปครองใจหลาย ๆ คนมาแล้ว ซึ่งอ่านชื่อเรื่องครั้งแรก หลาย ๆ คน อาจจะทำหน้างง ๆ ว่าหนังเรื่องนี้ไปเกี่ยวข้องอะไรกับตับ และนี่เป็นเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดจากปากของคุณครูคนหนึ่ง ที่สอนอยู่ในโรงเรียนมัธยมญี่ปุ่น การเล่าถึงอดีตของตัวเอง และคุณครูคนนี้คือพระเอกสมัยวัยรุ่นนั่นเอง ท่านเป็นคนที่มีความหลังแสนเศร้าและแสนสุขในเวลาเดียวกันกับผู้หญิงที่เขาสนิทมากที่สุด และรักมากที่สุด หนังเรื่องนี้ได้นำเสนอ story ในมุมของคนสองคน ที่ค่อย ๆ เผยความรู้สึกที่เก็บอยู่ข้างในออกมาให้แต่ละฝ่ายได้รับรู้

“ฮารุกิ” เขาในตอนนั้นผู้ซึ่งเป็นผู้ชายที่มีนิสัยค่อนข้างขี้อาย และไม่ชอบสุงสิงเข้าสังคมกับใครเลย เขาเป็นเพื่อนสมัยเรียนห้องเดียวกับเธอ “ซากุระ” สาวที่มีใบหน้ายิ้มแย้ม ชวนมองอยู่ตลอดเวลาไม่เคยเปลี่ยนแปลง เธอมักจะยิ้มให้กับสิ่งรอบตัวเสมอ และเธอก็เป็นผู้หญิงคนเดียวที่อยากจะเป็นเพื่อนกับฮารุกิ คนทั้งสองมีบุคลิกที่ถ้าดูจากภายนอกคือต่างกันสุดขั้ว แต่ถ้ามองกันจริง ๆ แล้ว พวกเขามีสิ่งที่เหมือนกันอยู่ ก็คือความอ่อนโยนในหัวใจ เพียงแต่ฮารุกิไม่เคยแสดงออกมาให้ใครสัมผัสได้เท่านั้น

จนกระทั่งวันหนึ่ง ฮารุกิ เป็นคนเดียวที่ได้รู้ความลับของซากุระ ว่าเธอเป็นโรคตับอ่อน โดยเธอเชื่อว่า ถ้าอวัยวะส่วนไหนเสียหรือบกพร่อง ก็ต้องกินอวัยวะส่วนนั้นของสัตว์อื่น โดยที่เขาก็ได้รู้ด้วยว่าซากุระจะอยู่ได้อีกไม่นาน ฮารุกิจึงสงสัยมาเสมอว่าทำไม ซากุระจึงมีความสุขได้มากขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอกำลังเผชิญโรคร้าย ความสงสัยของฮารุกิ จะถูกเปิดเผยในไดอารี่ที่ซากุระได้เขียนไว้ เธอได้เขียนทุกอย่างที่เธอเป็นและสิ่งที่เธอรู้สึกไว้ในนั้นทั้งหมด จริง ๆ แล้ว ซากุระก็ได้เคยพูดไว้เหมือนกัน ว่า เราไม่รู้หรอกว่าใครจะตายเมื่อไหร่ หรืออาจจะตายเพราะอุบัติเหตุก็ได้ มันอยู่ที่ว่าถ้าเรารู้ว่าจะตาย ก่อนตายจะทำอะไรบ้าง

หนังเรื่องนี้นอกจากจะเป็นหนังรักที่อบอุ่นแล้ว ยังถ่ายทอดคำสอนดี ๆ ที่ให้คนดูได้กลับไปคิดถึงชีวิตตัวเองอีกด้วยล่ะ ว่าคนเรามี มีสิ่งดี ๆ ที่อยู่ข้าง ๆ และหลาย ๆ คนกำลังมองไม่เห็นมัน แต่บางทีอาจเพิ่งมาเห็นค่าเมื่อมันจากไปไกลแสนไกลแล้ว ความรักก็เช่นกัน คนที่รักเราอยู่ไม่ไกลจากเราตอนนี้ คุณได้ทำอะไรให้เขาหรือยัง แล้วถ้าตาย สิ่งสุดท้ายที่คุณอยากทำให้เขาคืออะไร นี่คือสิ่งที่หนังเรื่องนี้พยายามสื่อออกมา เพราะความรักไม่ได้มีแค่คนสองคน แต่มันสามารถมีได้หลายคนซึ่งเป็นความรักคนละแบบกัน และเราแสดงออกมาไม่เหมือนกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แต่ละคนก็ย่อมคือคุณค่าให้เราเช่นกัน